เพลง มวยไชยา
บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตเเละการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
BEE BEE
BEE
แบ๊ว แบ๊ว
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ประวัติมวยไทย
มวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยมาช้านานไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าเกิดขึ้นเมื่อใด มวยไทยถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาติไทย ยากที่ผู้อื่นจะเลียนแบบได้โดยง่ายประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศมีการต่อสู้กันอยู่เนืองๆการฝึกมวยไทยจึงนิยมกันในหมู่ทหารในการสู้รบคนไทยพยายามหาวิธีที่จะมิให้คู่ต่อสู้ประชิดติดตัวมากเกินไป จึงคิดศิลปะป้องกันตัวที่ใช้เท้าเป็นอาวุธ ผสมเข้ากับการต่อสู้ด้วยดาบ เมื่อคู่ต่อสู่เสียหลักเพราะถูกถีบหรือเตะจึงค่อยฟันด้วยดาบ ต่อมาก็ได้คิดฝึกการถีบและเตะให้เป็นศิลปะสำหรับต่อสู้ป้องกันตัวเป็นศิลปะมวยไทยสำหรับใช้แสดงในเทศกาลต่าง ๆ ได้ มีการตั้งสำนักฝึกมวยไทยขึ้นหลายสำนักและพัฒนาท่าต่าง ๆ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ สำหรับต่อสู้ป้องกันตัวและสู้รบกับข้าศึก
โดยเหตุที่ชาติไทยต้องผ่านการต่อสู้เพื่อผดุงความเป็นขาติมาในประวัติศาสตร์อันยาวนาน คนไทยจึงมีนิสัยนักสู้ และศิลปะมวยไทยก็เป็นเครื่องสะท้อนนิสัยความนักสู้ของคนไทยได้อย่างชัดเจน
ในสมัยกรุงธนบุรีการฝึกมวยไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยในการสงครามโดยเฉพาะ เพราะเป็นยุคกู้ชาติและฟื้นฟูบ้านเมืองการฝึกมวยไทยในสมัยกรุงธนบุรีมีจุดมุ่งหมายเพื่อราชการทหารมีการฝึกหัดตามสำนักและตามบ้านในพระราชวัง และมีการแข่งขันกันมากในเทศกาล มีการชกแบบคาดเชือกคล้ายสมัยอยุธยาเหตุการณ์ที่เล่าขานเกี่ยวกับมวยไทยต้นสมัยรัตนโกสินทร์มีอีกเรื่อง คือ เมื่อ พ.ศ. 2331 มีเรือกำปั่นฝรั่งเศสเข้ามาถึงพระนคร มีฝรั่งสองพี่น้องเป็นนายกำปั่น คนน้องเป็นนักมวยมีฝีมือเที่ยวพนันชกชนะมาหลายครั้งแล้ว ได้เข้ามาท้าชกและได้มีการจัดให้ชกหน้าพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพรหะพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระอนุชาธิราช คือ พระบวรราชเจ้าพระสุรสิงหนาท นักมวยไทย คือ หมื่นผลาญ ในขณะที่ชกนักมวยไทยหลบหลีกไม่ให้ฝรั่งคู่ชกทำร้าย ฝรั่งผู้พี่ไม่พอใจลงมาช่วยผลักนักมวยไทยไม่ให้หนี สมเด็จพระอนุชาธิราชเห็นความไม่ชอบมาพากล จึงลงมาจากพลับพลา ยกพระบาทถีบล้มลง ชกอีกไม่ได้บ่าวไพร่ฝรั่งเข้ามาช่วยพาออกไป เมื่อเยียวยาวแล้วฝรั่งสองพี่น้องและพวกรับให้ล่ามมากราบเรียนพระยาพระคลัง ให้ช่วยกราบถวายบังคมลา แล้วรับแล่นเรือออกจากพระนครไป มวยไทยจึงเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่คร้ามเกรงกันไปในนานาประเทศตั้งแต่นั้นมา
มวยไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติไทยมาช้านานไม่มีหลักฐานแน่นอนว่าเกิดขึ้นเมื่อใด มวยไทยถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาติไทย ยากที่ผู้อื่นจะเลียนแบบได้โดยง่ายประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศมีการต่อสู้กันอยู่เนืองๆการฝึกมวยไทยจึงนิยมกันในหมู่ทหารในการสู้รบคนไทยพยายามหาวิธีที่จะมิให้คู่ต่อสู้ประชิดติดตัวมากเกินไป จึงคิดศิลปะป้องกันตัวที่ใช้เท้าเป็นอาวุธ ผสมเข้ากับการต่อสู้ด้วยดาบ เมื่อคู่ต่อสู่เสียหลักเพราะถูกถีบหรือเตะจึงค่อยฟันด้วยดาบ ต่อมาก็ได้คิดฝึกการถีบและเตะให้เป็นศิลปะสำหรับต่อสู้ป้องกันตัวเป็นศิลปะมวยไทยสำหรับใช้แสดงในเทศกาลต่าง ๆ ได้ มีการตั้งสำนักฝึกมวยไทยขึ้นหลายสำนักและพัฒนาท่าต่าง ๆ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ สำหรับต่อสู้ป้องกันตัวและสู้รบกับข้าศึก
โดยเหตุที่ชาติไทยต้องผ่านการต่อสู้เพื่อผดุงความเป็นขาติมาในประวัติศาสตร์อันยาวนาน คนไทยจึงมีนิสัยนักสู้ และศิลปะมวยไทยก็เป็นเครื่องสะท้อนนิสัยความนักสู้ของคนไทยได้อย่างชัดเจน
ในสมัยกรุงธนบุรีการฝึกมวยไทยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยในการสงครามโดยเฉพาะ เพราะเป็นยุคกู้ชาติและฟื้นฟูบ้านเมืองการฝึกมวยไทยในสมัยกรุงธนบุรีมีจุดมุ่งหมายเพื่อราชการทหารมีการฝึกหัดตามสำนักและตามบ้านในพระราชวัง และมีการแข่งขันกันมากในเทศกาล มีการชกแบบคาดเชือกคล้ายสมัยอยุธยาเหตุการณ์ที่เล่าขานเกี่ยวกับมวยไทยต้นสมัยรัตนโกสินทร์มีอีกเรื่อง คือ เมื่อ พ.ศ. 2331 มีเรือกำปั่นฝรั่งเศสเข้ามาถึงพระนคร มีฝรั่งสองพี่น้องเป็นนายกำปั่น คนน้องเป็นนักมวยมีฝีมือเที่ยวพนันชกชนะมาหลายครั้งแล้ว ได้เข้ามาท้าชกและได้มีการจัดให้ชกหน้าพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพรหะพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระอนุชาธิราช คือ พระบวรราชเจ้าพระสุรสิงหนาท นักมวยไทย คือ หมื่นผลาญ ในขณะที่ชกนักมวยไทยหลบหลีกไม่ให้ฝรั่งคู่ชกทำร้าย ฝรั่งผู้พี่ไม่พอใจลงมาช่วยผลักนักมวยไทยไม่ให้หนี สมเด็จพระอนุชาธิราชเห็นความไม่ชอบมาพากล จึงลงมาจากพลับพลา ยกพระบาทถีบล้มลง ชกอีกไม่ได้บ่าวไพร่ฝรั่งเข้ามาช่วยพาออกไป เมื่อเยียวยาวแล้วฝรั่งสองพี่น้องและพวกรับให้ล่ามมากราบเรียนพระยาพระคลัง ให้ช่วยกราบถวายบังคมลา แล้วรับแล่นเรือออกจากพระนครไป มวยไทยจึงเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่คร้ามเกรงกันไปในนานาประเทศตั้งแต่นั้นมา
ประวัติความเป็นมา
ว่ายน้ำ (Swimming) ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามชายทะเล แม่น้ำ ลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ำกันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เพราะมีผู้พบภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้ำในถ้ำบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน
การ ว่ายน้ำในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ได้ หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมป่าและที่อยู่อาศัยก็สามารถพาตัวไปในที่น้ำท่วม ไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย
การว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัย โบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มีหลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก (Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทำให้ว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก
ว่ายน้ำท่ากบ
ท่ากบเป็นท่าที่ ผู้ชื่นขอบการว่ายน้ำเล่นๆ ชอบว่ายมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ดูแล้วเป็นการว่ายที่สบาย ๆ
ไม่ต้องออกแรงมากมายนัก แต่การว่ายท่ากบในการแข่งขันนั้นต้องมีการฝึกฝนและมีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องที่ดูว่าสบายก็คงไม่สบายเสียแล้วการว่ายท่ากบเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะการว่ายให้เร็วและถูกต้องไม่สามารถทำได้ทุกคน ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อม สมรรถภาพของร่างกาย การที่กล่าวเช่นนี้เพราะการว่ายท่ากบต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของช่วงล่างตั้งแต่สะโพกจนถึงข้อเท้า อีกทั้งมีโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม เช่น ข้อเท้าและข้อพับที่หัวเข่าต้องมีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ จะทำให้ท่ากบไม่ดีเท่าที่ควรคือ ขาดพลังที่จะส่งตัวไปข้างหน้า
การว่ายท่ากบแบบใหม่ที่เรียกกันว่าแบบ " ลูกคลื่น" นั้นเป็นการว่ายแบบยกสะโพกคล้ายกับการยก
สะโพกของท่าผีเสื้อ ซึ่งเป็นการถ่ายน้ำหนักตัวให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวในการว่าย ด้วยอาศัยการ
เคลื่อนตัวแบบ " แอร์โร่ ไดนามิก "
การใช้ แขน ว่ายท่ากบที่ถูกต้อง ห้ามยกแขนพ้นผิวน้ำ การใช้แขนดึงน้ำต้องดึงพร้อมกันทั้งสองข้าง
เทคนิคการใช้แขนต้องเหยี่ยดแขนไปข้างหน้าให้สุด มือปะกบติดกันเสียบในระดับผิวน้ำ หลังจากนั้นให้ปาดแขนออกโดยใช่ฝ่ามือกดน้ำในลักษณะเฉียง 45 องศา จากผิวน้ำ
ทคนิคสำคัญในการดึงน้ำจังหวะที่ 1 ข้อมือต้องกว้างกว่าข้อศอก สองการดึงน้ำจังหวะที่สอง เป็นการล็อกข้อศอกให้อยู่กับที่ โดยให้ฝ่ามือปาดน้ำเข้าหากัน ส่วนการใช้แขนจังหวะสุดท้ายเป็นการรวบข้อศอกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเหยียดแขนพุ่งไปข้างหน้า
การใช้ เท้า จังหวะแรกเป็นการพับเข่า ที่สำคัญต้องไม่เป็นการชักเข่า ส่วนจังหวะที่สอง เป็นการ
แบะฝ่าเท้าออกโดยล็อกเข่าให้อยู่กับที่ และในจังหวะสุดท้ายให้ถีบฝ่าเท้าออกพร้อมทั้งรวบฝ่าเท้าเข้าหาปะกบ
กันอย่างรวดเร็ว เทคนิคที่สำคัญในการใช้เท้าอยู่ที่จังหวะถีบสุดท้ายต้องมีความเร็วหรืออัตราการเร่ง
ของการใช้เท้าเข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย
ตำแหน่งของ ลำตัว ในการว่ายท่ากบท่าปกติจะเอียงประมาณ 15 องศา จากผิวน้ำ แต่การว่ายท่ากบแบบลูกคลื่นหรือแบบใหม่นี้ ตำแหน่งลำตัวค่อนข้างจะขนานกับผิวน้ำ โดยอาศัยการถ่ายน้ำหนักเช่นเดียว
กันกับท่าผีเสื้อ การว่ายท่ากบเป็นท่าที่ว่ายช้าที่สุดในบรรดาท่าว่ายทุกท่าหากปฏิบัติตามข้างต้นแล้วก็มิใช่ว่า จะต้องได้รับชัยชนะ แต่เป็นเพียงทำให้การว่ายท่ากบที่ดีขึ้นเพราะว่ายให้ได้ชัยชนะนั้นต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น การออกตัว การกลับตัว การเข้าเส้นชัยสิ่งต่างๆ นี้จะได้มาก็จากผู้ฝึกสอนชี้แนะ และตัวนักกีฬานำไปปฏิบัติและฝึกซ้อมอย่างเคยชินจนชำนาญ
ว่ายน้ำท่ากรรเชียง
1.ให้น้ำดันตัวคุณขึ้น- คุณต้องไว้ใจมันที่จะทำให้ตัวคุณลอย
2 ยืดตัวยาวขนานกับพื้นน้ำและน้ำอยู่ระหว่างซี่โครงของคุณ และผลักมือให้ลำตัวเคลื่อน
3.วางหัวให้ไปด้านหลัง และยึดคอโดยไม่หันหน้าซ้ายขวา
4.ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ใช่แข็งเหมือนท่อนไม้
5.เคลื่อนตัวขนานกับน้ำ
6.ยกตะโพกของคุณ ขึ้นข้างบน
7.เตะขาขึ้นลงอย่างถูกต้อง
8.หมุนสะโพกของคุณ ตามจังหวะการว่าย
9.การเตะเท้าอย่าให้เข่าและเท้าอยู่เหนือผิวน้ำ
10.ขณะเริ่มออกตัวให้จัดลำตัวให้ตรง
11.เหยียดแขนให้ตรงขณะที่ออกมาจากน้ำ
12.ทำแขนโค้งงอดึงใต้น้ำ
13.เมื่อถึงธงต้องนับจำนวนแขนของคุณ จากธงถึงกำแพง หากหัวชนกำแพงจะได้รับบาดเจ็บ
ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์
ว่ายน้ำ (Swimming) ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามชายทะเล แม่น้ำ ลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ำกันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เพราะมีผู้พบภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้ำในถ้ำบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน
การ ว่ายน้ำในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ได้ หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมป่าและที่อยู่อาศัยก็สามารถพาตัวไปในที่น้ำท่วม ไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย
การว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัย โบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มีหลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก (Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทำให้ว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก
ว่ายน้ำท่ากบ
ท่ากบเป็นท่าที่ ผู้ชื่นขอบการว่ายน้ำเล่นๆ ชอบว่ายมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ดูแล้วเป็นการว่ายที่สบาย ๆ
ไม่ต้องออกแรงมากมายนัก แต่การว่ายท่ากบในการแข่งขันนั้นต้องมีการฝึกฝนและมีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องที่ดูว่าสบายก็คงไม่สบายเสียแล้วการว่ายท่ากบเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะการว่ายให้เร็วและถูกต้องไม่สามารถทำได้ทุกคน ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อม สมรรถภาพของร่างกาย การที่กล่าวเช่นนี้เพราะการว่ายท่ากบต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของช่วงล่างตั้งแต่สะโพกจนถึงข้อเท้า อีกทั้งมีโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม เช่น ข้อเท้าและข้อพับที่หัวเข่าต้องมีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ จะทำให้ท่ากบไม่ดีเท่าที่ควรคือ ขาดพลังที่จะส่งตัวไปข้างหน้า
การว่ายท่ากบแบบใหม่ที่เรียกกันว่าแบบ " ลูกคลื่น" นั้นเป็นการว่ายแบบยกสะโพกคล้ายกับการยก
สะโพกของท่าผีเสื้อ ซึ่งเป็นการถ่ายน้ำหนักตัวให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวในการว่าย ด้วยอาศัยการ
เคลื่อนตัวแบบ " แอร์โร่ ไดนามิก "
การใช้ แขน ว่ายท่ากบที่ถูกต้อง ห้ามยกแขนพ้นผิวน้ำ การใช้แขนดึงน้ำต้องดึงพร้อมกันทั้งสองข้าง
เทคนิคการใช้แขนต้องเหยี่ยดแขนไปข้างหน้าให้สุด มือปะกบติดกันเสียบในระดับผิวน้ำ หลังจากนั้นให้ปาดแขนออกโดยใช่ฝ่ามือกดน้ำในลักษณะเฉียง 45 องศา จากผิวน้ำ
ทคนิคสำคัญในการดึงน้ำจังหวะที่ 1 ข้อมือต้องกว้างกว่าข้อศอก สองการดึงน้ำจังหวะที่สอง เป็นการล็อกข้อศอกให้อยู่กับที่ โดยให้ฝ่ามือปาดน้ำเข้าหากัน ส่วนการใช้แขนจังหวะสุดท้ายเป็นการรวบข้อศอกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเหยียดแขนพุ่งไปข้างหน้า
การใช้ เท้า จังหวะแรกเป็นการพับเข่า ที่สำคัญต้องไม่เป็นการชักเข่า ส่วนจังหวะที่สอง เป็นการ
แบะฝ่าเท้าออกโดยล็อกเข่าให้อยู่กับที่ และในจังหวะสุดท้ายให้ถีบฝ่าเท้าออกพร้อมทั้งรวบฝ่าเท้าเข้าหาปะกบ
กันอย่างรวดเร็ว เทคนิคที่สำคัญในการใช้เท้าอยู่ที่จังหวะถีบสุดท้ายต้องมีความเร็วหรืออัตราการเร่ง
ของการใช้เท้าเข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย
ตำแหน่งของ ลำตัว ในการว่ายท่ากบท่าปกติจะเอียงประมาณ 15 องศา จากผิวน้ำ แต่การว่ายท่ากบแบบลูกคลื่นหรือแบบใหม่นี้ ตำแหน่งลำตัวค่อนข้างจะขนานกับผิวน้ำ โดยอาศัยการถ่ายน้ำหนักเช่นเดียว
กันกับท่าผีเสื้อ การว่ายท่ากบเป็นท่าที่ว่ายช้าที่สุดในบรรดาท่าว่ายทุกท่าหากปฏิบัติตามข้างต้นแล้วก็มิใช่ว่า จะต้องได้รับชัยชนะ แต่เป็นเพียงทำให้การว่ายท่ากบที่ดีขึ้นเพราะว่ายให้ได้ชัยชนะนั้นต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น การออกตัว การกลับตัว การเข้าเส้นชัยสิ่งต่างๆ นี้จะได้มาก็จากผู้ฝึกสอนชี้แนะ และตัวนักกีฬานำไปปฏิบัติและฝึกซ้อมอย่างเคยชินจนชำนาญ
ว่ายน้ำท่ากรรเชียง
1.ให้น้ำดันตัวคุณขึ้น- คุณต้องไว้ใจมันที่จะทำให้ตัวคุณลอย
2 ยืดตัวยาวขนานกับพื้นน้ำและน้ำอยู่ระหว่างซี่โครงของคุณ และผลักมือให้ลำตัวเคลื่อน
3.วางหัวให้ไปด้านหลัง และยึดคอโดยไม่หันหน้าซ้ายขวา
4.ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ใช่แข็งเหมือนท่อนไม้
5.เคลื่อนตัวขนานกับน้ำ
6.ยกตะโพกของคุณ ขึ้นข้างบน
7.เตะขาขึ้นลงอย่างถูกต้อง
8.หมุนสะโพกของคุณ ตามจังหวะการว่าย
9.การเตะเท้าอย่าให้เข่าและเท้าอยู่เหนือผิวน้ำ
10.ขณะเริ่มออกตัวให้จัดลำตัวให้ตรง
11.เหยียดแขนให้ตรงขณะที่ออกมาจากน้ำ
12.ทำแขนโค้งงอดึงใต้น้ำ
13.เมื่อถึงธงต้องนับจำนวนแขนของคุณ จากธงถึงกำแพง หากหัวชนกำแพงจะได้รับบาดเจ็บ
ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์
การว่ายน้ำที่ไม่จำกัดแบบหรือท่า ในการแข่งขันคุณจะว่ายแบบใดก็ได้ แต่การว่ายฟรีสไตล์เป็นการว่ายที่เร็วที่สุดการว่ายแบบฟรีสไตล์ การว่ายท่านี้เป็นการนอนคว่ำลงในน้ำ หมุนแขนของท่านผ่านใต้น้ำและเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง ขาของท่านต้องเตะขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ และหายใจเมื่อท่านหมุนหน้าไปด้านข้าง มีคำพูดที่ว่าการว่ายท่านี้ง่ายมาก แต่มันก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่เราจำเป็นต้องรู้
เส้นทางนำร่องการว่ายน้ำไม่จำกัดแบบหรือท่า (Freestyle) ดังต่อไปนี้ เมื่อออกไปปฏิบัติจริงแล้ว การว่ายและการเรียนรู้ในความคิดจะช่วยให้คุณพัฒนาสไตล์ได้โดยธรรมชาติด้วยตัวเองของคุณ และที่สำคัญอย่างมากคือการเคลื่อนตัวไม่ให้เกิดการต้านน้ำหรือเกิดการต้านน้ำน้อยที่สุด
ประวัติ
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มแพร่หลายแต่เมื่อครั้งมนุษย์ยังมีทาส แรกเริ่มนั้น ชนชั้นผู้ปกครองจะให้ทาสของตนเองเตะลูกเหล็กที่มีหนามล้อมรอบเพื่อการฝึกฝน โดยมัดมือของผู้เล่นไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้มือได้ ต้องใช้เท้าเตะเลี้ยงลูกหรือใช้ศีรษะโขก ผู้แพ้หรือรับลูกพลาดจึงมีสิทธิ์ตายได้ เป็นการละเล่นที่เสี่ยงชีวิตและต้องใช้เทคนิคอย่างสูง คนที่เตะได้ดีจะได้รับการยกย่องและอาจถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระหรือเลื่อน ขั้นเป็นองครักษ์ของเจ้านาย แต่ผู้แพ้จะเป็นเหยื่อเพื่อความบันเทิง ต่อมาฟุตบอลเริ่มแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง แต่ภายหลังจากชนชั้นผู้ปกครองทดลองเล่นดูแล้วไม่อาจเตะลูกเหล็กที่มีหนาม แหลมรอบด้านได้ ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ลูกกลมที่ไม่มีหนามแทน
ฟุตบอล เป็นกีฬาที่ห้ามใช้มือหรือแขนเล่น อวัยวะที่ คุณสามารถที่จะเล่นบอลได้ คือเท้า ขา หัว หรือถลกกางเกงเอาหำมาฟาดลูกบอลก็แล้วแต่คุณ
ฟุตบอล คือกีฬาชนิดหนึ่งที่เล่น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 11 คน โดยเมื่อเริ่มต้นเกมจะมีลูกฟุตบอลอยู่ 1 ลูกอยู่กลางสนาม โดยให้ทั้ง 22 คนรุมแย่งไอ้ลูกบอลที่ว่านั่น ส่งให้กัน แล้วยิงประตูของฝั่งตรงข้ามให้ได้ ถ้ายิงเข้าประตูของฝั่งตรงข้ามได้จะได้ 1 คะแนน (ภาษาฟุตบอลเรียกว่าประตู) เวลาจบเกม 90 นาทีทีมไหนที่ได้ประตูมากกว่าทีมนั้นชนะ
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มแพร่หลายแต่เมื่อครั้งมนุษย์ยังมีทาส แรกเริ่มนั้น ชนชั้นผู้ปกครองจะให้ทาสของตนเองเตะลูกเหล็กที่มีหนามล้อมรอบเพื่อการฝึกฝน โดยมัดมือของผู้เล่นไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้มือได้ ต้องใช้เท้าเตะเลี้ยงลูกหรือใช้ศีรษะโขก ผู้แพ้หรือรับลูกพลาดจึงมีสิทธิ์ตายได้ เป็นการละเล่นที่เสี่ยงชีวิตและต้องใช้เทคนิคอย่างสูง คนที่เตะได้ดีจะได้รับการยกย่องและอาจถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระหรือเลื่อน ขั้นเป็นองครักษ์ของเจ้านาย แต่ผู้แพ้จะเป็นเหยื่อเพื่อความบันเทิง ต่อมาฟุตบอลเริ่มแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง แต่ภายหลังจากชนชั้นผู้ปกครองทดลองเล่นดูแล้วไม่อาจเตะลูกเหล็กที่มีหนาม แหลมรอบด้านได้ ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ลูกกลมที่ไม่มีหนามแทน
ฟุตบอล เป็นกีฬาที่ห้ามใช้มือหรือแขนเล่น อวัยวะที่ คุณสามารถที่จะเล่นบอลได้ คือเท้า ขา หัว หรือถลกกางเกงเอาหำมาฟาดลูกบอลก็แล้วแต่คุณ
ฟุตบอล คือกีฬาชนิดหนึ่งที่เล่น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 11 คน โดยเมื่อเริ่มต้นเกมจะมีลูกฟุตบอลอยู่ 1 ลูกอยู่กลางสนาม โดยให้ทั้ง 22 คนรุมแย่งไอ้ลูกบอลที่ว่านั่น ส่งให้กัน แล้วยิงประตูของฝั่งตรงข้ามให้ได้ ถ้ายิงเข้าประตูของฝั่งตรงข้ามได้จะได้ 1 คะแนน (ภาษาฟุตบอลเรียกว่าประตู) เวลาจบเกม 90 นาทีทีมไหนที่ได้ประตูมากกว่าทีมนั้นชนะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)