บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตเเละการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

BEE BEE

BEE

แบ๊ว แบ๊ว

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ประวัติความเป็นมา 

    ว่ายน้ำ (Swimming) ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามชายทะเล แม่น้ำ ลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ำกันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เพราะมีผู้พบภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้ำในถ้ำบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน
    การ ว่ายน้ำในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ได้ หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมป่าและที่อยู่อาศัยก็สามารถพาตัวไปในที่น้ำท่วม ไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย
    การว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัย โบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มีหลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก (Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทำให้ว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก

ว่ายน้ำท่ากบ


   ท่ากบเป็นท่าที่  ผู้ชื่นขอบการว่ายน้ำเล่นๆ ชอบว่ายมากที่สุด  เพราะเป็นท่าที่ดูแล้วเป็นการว่ายที่สบาย ๆ 
ไม่ต้องออกแรงมากมายนัก  แต่การว่ายท่ากบในการแข่งขันนั้นต้องมีการฝึกฝนและมีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องที่ดูว่าสบายก็คงไม่สบายเสียแล้วการว่ายท่ากบเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะการว่ายให้เร็วและถูกต้องไม่สามารถทำได้ทุกคน  ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อม  สมรรถภาพของร่างกาย  การที่กล่าวเช่นนี้เพราะการว่ายท่ากบต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของช่วงล่างตั้งแต่สะโพกจนถึงข้อเท้า  อีกทั้งมีโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม เช่น ข้อเท้าและข้อพับที่หัวเข่าต้องมีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง  จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้  จะทำให้ท่ากบไม่ดีเท่าที่ควรคือ ขาดพลังที่จะส่งตัวไปข้างหน้า
    การว่ายท่ากบแบบใหม่ที่เรียกกันว่าแบบ " ลูกคลื่น" นั้นเป็นการว่ายแบบยกสะโพกคล้ายกับการยก
สะโพกของท่าผีเสื้อ  ซึ่งเป็นการถ่ายน้ำหนักตัวให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวในการว่าย  ด้วยอาศัยการ
เคลื่อนตัวแบบ " แอร์โร่ ไดนามิก "
          การใช้ แขน ว่ายท่ากบที่ถูกต้อง  ห้ามยกแขนพ้นผิวน้ำ  การใช้แขนดึงน้ำต้องดึงพร้อมกันทั้งสองข้าง 

          เทคนิคการใช้แขนต้องเหยี่ยดแขนไปข้างหน้าให้สุด มือปะกบติดกันเสียบในระดับผิวน้ำ  หลังจากนั้นให้ปาดแขนออกโดยใช่ฝ่ามือกดน้ำในลักษณะเฉียง 45 องศา จากผิวน้ำ  
          ทคนิคสำคัญในการดึงน้ำจังหวะที่ 1  ข้อมือต้องกว้างกว่าข้อศอก   สองการดึงน้ำจังหวะที่สอง  เป็นการล็อกข้อศอกให้อยู่กับที่  โดยให้ฝ่ามือปาดน้ำเข้าหากัน  ส่วนการใช้แขนจังหวะสุดท้ายเป็นการรวบข้อศอกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับเหยียดแขนพุ่งไปข้างหน้า
          การใช้ เท้า จังหวะแรกเป็นการพับเข่า  ที่สำคัญต้องไม่เป็นการชักเข่า  ส่วนจังหวะที่สอง  เป็นการ
แบะฝ่าเท้าออกโดยล็อกเข่าให้อยู่กับที่  และในจังหวะสุดท้ายให้ถีบฝ่าเท้าออกพร้อมทั้งรวบฝ่าเท้าเข้าหาปะกบ
กันอย่างรวดเร็ว  เทคนิคที่สำคัญในการใช้เท้าอยู่ที่จังหวะถีบสุดท้ายต้องมีความเร็วหรืออัตราการเร่ง
ของการใช้เท้าเข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย
         ตำแหน่งของ ลำตัว ในการว่ายท่ากบท่าปกติจะเอียงประมาณ 15 องศา  จากผิวน้ำ  แต่การว่ายท่ากบแบบลูกคลื่นหรือแบบใหม่นี้ ตำแหน่งลำตัวค่อนข้างจะขนานกับผิวน้ำ  โดยอาศัยการถ่ายน้ำหนักเช่นเดียว
กันกับท่าผีเสื้อ  การว่ายท่ากบเป็นท่าที่ว่ายช้าที่สุดในบรรดาท่าว่ายทุกท่าหากปฏิบัติตามข้างต้นแล้วก็มิใช่ว่า  จะต้องได้รับชัยชนะ  แต่เป็นเพียงทำให้การว่ายท่ากบที่ดีขึ้นเพราะว่ายให้ได้ชัยชนะนั้นต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น การออกตัว  การกลับตัว  การเข้าเส้นชัยสิ่งต่างๆ นี้จะได้มาก็จากผู้ฝึกสอนชี้แนะ  และตัวนักกีฬานำไปปฏิบัติและฝึกซ้อมอย่างเคยชินจนชำนาญ


ว่ายน้ำท่ากรรเชียง



1.ให้น้ำดันตัวคุณขึ้น- คุณต้องไว้ใจมันที่จะทำให้ตัวคุณลอย 
2 ยืดตัวยาวขนานกับพื้นน้ำและน้ำอยู่ระหว่างซี่โครงของคุณ และผลักมือให้ลำตัวเคลื่อน
3.วางหัวให้ไปด้านหลัง และยึดคอโดยไม่หันหน้าซ้ายขวา 
4.ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ใช่แข็งเหมือนท่อนไม้  
5.เคลื่อนตัวขนานกับน้ำ 
6.ยกตะโพกของคุณ ขึ้นข้างบน 
7.เตะขาขึ้นลงอย่างถูกต้อง 
8.หมุนสะโพกของคุณ ตามจังหวะการว่าย 
9.การเตะเท้าอย่าให้เข่าและเท้าอยู่เหนือผิวน้ำ
10.ขณะเริ่มออกตัวให้จัดลำตัวให้ตรง
11.เหยียดแขนให้ตรงขณะที่ออกมาจากน้ำ 
12.ทำแขนโค้งงอดึงใต้น้ำ 
13.เมื่อถึงธงต้องนับจำนวนแขนของคุณ จากธงถึงกำแพง หากหัวชนกำแพงจะได้รับบาดเจ็บ



ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์


   
     การว่ายน้ำที่ไม่จำกัดแบบหรือท่า ในการแข่งขันคุณจะว่ายแบบใดก็ได้ แต่การว่ายฟรีสไตล์เป็นการว่ายที่เร็วที่สุดการว่ายแบบฟรีสไตล์ การว่ายท่านี้เป็นการนอนคว่ำลงในน้ำ หมุนแขนของท่านผ่านใต้น้ำและเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง ขาของท่านต้องเตะขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ และหายใจเมื่อท่านหมุนหน้าไปด้านข้าง มีคำพูดที่ว่าการว่ายท่านี้ง่ายมาก แต่มันก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่เราจำเป็นต้องรู้ 
เส้นทางนำร่องการว่ายน้ำไม่จำกัดแบบหรือท่า (Freestyle) ดังต่อไปนี้ เมื่อออกไปปฏิบัติจริงแล้ว การว่ายและการเรียนรู้ในความคิดจะช่วยให้คุณพัฒนาสไตล์ได้โดยธรรมชาติด้วยตัวเองของคุณ และที่สำคัญอย่างมากคือการเคลื่อนตัวไม่ให้เกิดการต้านน้ำหรือเกิดการต้านน้ำน้อยที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น